บาคาร่า งามหน้า! นทท.โพสต์ประจานทางเดินชมธรรมชาติ สระมรกต น๊อตโผล่ สะดุดเจ็บหลายราย

บาคาร่า งามหน้า! นทท.โพสต์ประจานทางเดินชมธรรมชาติ สระมรกต น๊อตโผล่ สะดุดเจ็บหลายราย

วันที่ 3 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโซเชี่ยล บาคาร่า ได้นำภาพทางเดินของสระมรกต อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวอันซีน มีสภาพหัวน๊อต ขนาดเท่านิ้วชี้ ยึดทางเดินโผล่ หลายจุด เกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่า 300 คน พร้อมข้อความว่า “พิกัดไหนดูกันเอาเอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ค่าธรรมเนียมการเข้าชม เก็บกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย เจ้าหน้าที่กระตือรือร้นดีมาก แต่สภาพภายใน น๊อตยึดทางเดินโผล่ขึ้นมาหลายจุด ไม่ได้รับการดูแลซ่อมแซมดูแลให้พร้อมใช้งาน นทท.สะดุดกันหลายราย สงสัยต้องรอให้เล็บฉีก เท้าแหกกันก่อนแล้วค่อยซ่อม หันไปเห็นเจ้าหน้าที่ นังแชทอยู่ เซงเลย”

ด้านนายวุฒิพงษ์ ชูสังราช หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม 

กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขหาวิธีการแก้ปัญหาหัวน๊อตยึดทางเดินภายในสระมรกตโผล่ขึ้นมา เพื่อไม่ให้กระทบกับนักท่องเที่ยว ที่อาจจะเดินไปเหยียบสะดุดหัวน๊อต ทำให้บาดเจ็บได้ ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้น๊อตยึดทั้งที่แผ่นทางเดินทำด้วยปูนแล้วก็ตาม เนื่องจากนักท่องเที่ยวชอบยกออกไปจากที่วางไว้ ทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบ 

หน.เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ได้กล่าวด้วยว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวบริเวณสระมรกต ลดน้อยลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวไทย เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สำหรับความงามของสระมรกต ยังคงมีความงดงามเช่นเดิม และเชื่อว่าขณะนี้กำลังย่างเข้าสู่หน้าร้อน สระมรกต จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านไหนหนัง ร้อง! นำทุ่นกำหนดแนวเขตอนุรักษ์หอยชักตีน กลับที่เดิม หลังมือดีตัดหายไป วันที่ 3 ก.พ.62 นางสาวพิกุล ไชยรัตน์ ประมงอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกับผู้นำท้องที่และองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านไหนหนัง ม.3 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ร่วมกันปล่อยพันธุ์หอยชักตีน จำนวน 10,000 ตัว ณ บริเวณเขตรักษาพันธุ์หอยชักตีน บ้านไหนหนัง เพื่อเพิ่มปริมาณจำนวนของหอยชักตีน ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่หอยชักตีนเป็นที่ต้องการของตลาดและนักท่องเที่ยว ทำให้มีการจับนำไปขาย จนลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว

นางสาวพิกุล กล่าวว่า พันธุ์หอยชักตีนที่ปล่อยนับจากนี้ 3 – 4 เดือน จะได้หอยขนาด 4 ซม. ซึ่งเป็นหอยวัยเจริญพันธุ์ ได้รณรงค์ให้เก็บหอยเมื่อผ่านไป 5 – 6 เดือน จะได้หอยขนาด 6 ซม. ซึ่งแม่หอยชักตีนได้วางไข่ไประยะหนึ่งแล้ว โดยแม่หอยชักตีน 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ 3 – 5 หมื่นฟอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณหอยชีกตีน ที่กำลังลดจำนวนลงให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

ด้านนายห้าสัน วันศุกร์ ประธานชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านไหนหนัง กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ทางชุมชนฯ ได้กำหนดแนวเขตแปลงเพาะ อนุรักษ์พันธุ์หอยชักตีน โดยการนำทุ่นมาวางไว้ จำนวน 6 จุด เพื่อให้สามารถมองเห็นแนวเขตได้ชัดเจน พบว่าทุ่นกำหนดแนวเขต ได้หายไปจำนวน 3 จุด เชื่อว่ามีการลักลอบตัดออกไป จึงขอความร่วมมือขอให้คนที่เอาไปนำกลับมาไว้ที่เดิมด้วย เพื่อช่วยกันอนุรักษ์หอยชักตีน ให้อยู่คู่กับทะเลบ้านไหนหนังอย่างยั่งยืน

พระหนุ่ม วัย 29 ปี ผูกคอมรณะคากุฎิ คาดเครียดปัญหาส่วนตัวและโรคซึมเศร้า

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 3 ก.พ.62 พ.ต.ท.สมชาย หนูบุญ สว.(สอบสวน) สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุพระผูกคอมรณะ เหตุเกิดภายในวัดพรุดินนา ม.2 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเต็กก่าจีคุงเกาะลำทับ เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในกุฎิ ภายในห้องน้ำของกุฎิ พบร่างผู้เสียชีวิต ในสภาพไม่ห่มจีวร นุ่งผ้าเหลืองท่อนล่าง

ทราบ ชื่อจริง นายภาณุพงศ์ ทองแก้ว หรือเบียร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ม.2 ต.พรุดินนา สภาพผูกคอด้วยผ้าสีเหลืองกับโครงหลัง คาในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ จึงได้ปลดผ้าลงมาทำการชันสูตรเบื้องต้น ตามร่างกายไม่มีบาดแผลและ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม.เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปชันสูตรที่รพ. คลองท่อม

สอบสวนทราบว่า เดิมผู้เสียชีวิตได้เคยบวชพระ ที่วัดใน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพรมาได้ประมาณ 1 เดือนก่อนกลับมาบวชที่วัดพรุดินนา ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านได้ประมาณ3 วัน แต่พระรูปดังกล่าว ชอบเก็บตัวเงียบ คนเดียว ไม่ค่อยพูดกับใคร ก่อนจะมาผูกคอในกุฏิดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าพระรูปดังกล่าว น่าจะ เกิดอาการเครียดปัญหาบางอย่าง หลังมาอยู่ที่วัดพรุดินนา ไม่มีเพื่อนฝูงแวะเวียนมาหา และเคยมีประวัติป่วยโรคซึมเศร้าด้วย ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุจึงมอบศพให้ญาตินำกลับไปทำพิธีศาสนาต่อไป

โดยจะทำความจริงให้ปรากฎ เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยรับผิดชอบต่อสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นการแสดงความจริงใจในการนำเรือขึ้นมา ในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการค้นหาหลักฐานทั้งหมด

“สำหรับงบประมาณในการดำเนินการกู้เรือฟินิกซ์ครั้งนี้ ใช้งบประมาณของรัฐบาล จำนวน 35 ล้านบาท โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะกู้เรือฟินิกซ์ให้ได้ จึงได้นำตัวเครนขนาด 1,200 ตัน จากประเทศสิงคโปร์มาดำเนินการ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวในที่สุด

ผลการจับกุมระดมกวาดล้างของหน่วยงานในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต สามารถจับกุมอาวุธปืน จำนวน 107 ราย ผู้ต้องหา 109 ราย ของกลางเป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 24 กระบอก ไม่มีทะเบียน 84 กระบอก บาคาร่า